จ่ายครบจบแน่…ง่ายไปนะการศึกษาไทย

เริ่มงงงวยกับระบบการศึกษาไทย ทำไมหรือ??? ความยากในการได้ปริญญามันทำให้คนอยากเรียนน้อยลงหรือ ก็น่าจะเปล่า เพราะบัณฑิต มหาฑิต ดุษฎีบัณฑิต เพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะวงการครูนะ ก็มีครูที่จบโทมาขึ้น และเริ่มมีครูที่เป็น ดร. กันเยอะ แต่ทำไมระบบจ่ายครบจบแน่ หรือ เรียนจบภายใน…เดือน ถึงมีมากมายในระบบการศึกษาไทยนัก

สมัยก่อนเรียนประถม 5 + 1 วิชา คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ (เรียนทุกวัน) สปช. สลน. กพอ. แล้วพอ ป.5 เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ตามความเหมาะสมกับช่วงวัย แต่มาปรับเป็นเรียน 8 สาระ เกรดหรือก็เห็นว่าบางคนจบ ป.6 มาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก็มี ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนไม่มีนะ สมัยเรียนยังมีเพื่อนในชั้นสองสามคนเรียนซ้ำชั้นเลย แล้วพอเรียนต่อๆ ไปก็เห็นว่าเริ่มอ่านออกเขียนได้ดีขึ้น หนึ่งในนั้นลายมือสวยด้วยนะ แต่ตอนนี้ไมมีแล้วระบบนี้ เลื่อนๆ ไปเลย เลยเป็นหนึ่งในเหตุที่ทำให้คุณภาพลดลงหรือเปล่า บางคนจบ ป.6 มาเกรด 4.00 แต่ว่า…เหอๆๆๆ ไม่ต้องพูดหรอกนะ

สมัยก่อนเรียนมัธยม ระบบการวัดผล 5 วิชาหลัก (ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ) เป็น 60:40 แต่ละวิชากว่าจะได้เกรด 4 แทบกระอักเลือดได้ เพื่อนๆ ร่วมรุ่นจบเกรดเฉลี่ยไม่เกิน 2.50 กันเกือบครึ่ง ตอนนี้ทุกคนก็มีการงานทำมั่นคง ที่เรียนจบตรีก็มาก เรียนจบโทก็หลายคน ต่อมาหลักสูตร 44 ระบบการวัดผลวิชาหลักเป็น 80:20 ผู้เขียนบอกกับนักเรียนที่สอนเลยว่า เรียนหลักสูตรนี้ใครจบต่ำกว่า 3.00 ถือว่าทุเรศ พอหลักสูตร 51 ดีขึ้นมาหน่อยเป็น 70:30 ขนาดนั้นก็ยังมีคนตกมากมาย

ระดับอุดมศึกษา ถือว่ามีความเข้มข้นมาก แต่บางแห่งก็ถือว่าลดลง เมื่อก่อนเราจะได้ยินเสมอว่า โดนรีไทร์ แต่ปัจจุบันได้ยินน้อยลง ยกเว้นบางคณะที่ยากๆ หนักๆ อย่างหมอ (รุ่นพี่ที่หอคนหนึ่งตกวิชาภายวิภาคศาสตร์ ต้องออก) หรือวิศวะ (อันนี้ลูกศิษย์) เป็นต้น แต่ก็เริ่มมีบางมหาวิทยาลัยที่เริ่มง่ายขึ้น เช่น เรียนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ สามปีจบ มีศักดิ์เท่ากับเรียนปกติ เอ…นับชั่วโมงเรียนยังไม่ครบเลยแต่ละวิชา ไม่ต้องคิดว่าเรียนแล้วเป็นยังไงหรอกนะ พอปริญญาโท เมื่อก่อนเห็นบ่นว่ายาก ทุกวันนี้ก็ยังมีบ่น แต่เริ่มมีบางแห่งมีโครงการ “จ่ายครบจบแน่ ใช้เวลาแค่ 1 ปี” เอ๊า…ได้อะไรบ้างเนี้ยะ… เมื่อก่อนเคยได้ยินแต่บางประเทศมี “มหาวิทยาลัยห้องแถว” ไม่คิดว่าปัญญานี่เริ่มเกิดที่เมืองไทยแล้ว ถึงกับคนตั้งกระทู้เปรียบเทียบกันในพันทิปถึงคุณภาพของบัณฑิตเกียรตินิยมของบางมหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว…ไม่ได้อคติต่อสถาบัน แต่เขาคงไม่เจออะไรมาเป็นแน่

ที่พูดมาเสียยืดยาวก็เพื่อจะถามว่า ตอนนี้ระบบการศึกษาไทยเป็นระบบได้มาง่ายๆ แล้วหรือ??? ผู้เคยได้ยินครูผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดว่า “ให้ๆ ไปเหอะ อย่าหวงเกรดเลย ให้มันเป็นใบเบิกทางมันได้เรียนต่อ แล้วถ้ามันเรียนไม่ได้ก็ช่างมัน” โอ๋ยยยยยย…นี่ครูมัธยมคิดแบบนี้หรือ ครูประถมคิดแบบนี้ด้วยหรือเปล่า ผู้ปกครองล่ะคิดด้วยไหม พ่อของผู้เขียนเคยตำหนิพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของหลานเล็กๆ แต่พอรู้ความแล้ว แต่ผู้เป็นพ่อของเจ้าหลานตัวดีตอบพ่อของผู้เขียนว่า “มันยังเด็กอยู่ อย่าไปว่ามัน ให้มันโตก่อนค่อยว่า” พ่อของผู้เขียนเลยว่า “แล้วพอมันโตจะสอนมันได้ไหม” เหอๆๆ ผู้ปกครองบ้านอื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่า พอมันโตแล้วก็ส่งมันมาโรงเรียนแล้วก็บอกว่า “ครูสอนมันหน่อยนะ ฉันสอนมันไม่ได้แล้ว”

นี่กระมั่งอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ระบบการศึกษาไทยตกต่ำลง เพราะได้อะไรมาง่ายๆ เรียนไปเรื่อยๆ ถ้าเมื่อยก็โดด ครูคงไม่โกรธ เพราะโดดเรื่อยๆ ใช่…โดดไปครูก็แค่ด่า ตัดคะแนน แล้วไงล่ะ ตีก็ไม่ได้ ไล่ออกก็ไม่ได้ ถึงปลายเทอมครูให้ตก ผมก็ไปพบ ผอ. หรือไม่ ผอ. ก็ให้ผมจบเอง (คำพูดนักเรียนคนหนึ่ง และถึงหูท่าน ผอ. ด้วย) หรือถ้าครูให้เยอะหลายคนก็ยิ่งดีเลย ผอ. ก็ไม่อนุมัติ เพราะมีนโยบายปลอด 0 ร มส. (รู้ดีจริงนะ) เหอๆๆ ไม่แน่เราอาจจะได้เกรด 3, 4 เพราะ (เมื่อก่อน) เกณฑ์ประเมินภายนอก ของ สมศ. บอกว่า “ผู้เรียนต้องมีผลการเรียน 3, 4 ไม่น้อยกว่าร้อยฃะ 50” เหอๆๆๆ เอากับเขาสิ…คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ปกติ 2, 1, 0 ตอนนี้ต้องเป็น 3, 4 นะครับคุณครู ครูให้ผมตกก็ไม่ได้ ให้ 1 ไม่งาม ให้ 2 ก็น้อยไป ต้อง 3, 4 เท่านั้น

พอได้อะไรมาง่ายๆ ก็เลยพาลไม่ต้องเรียน ไม่ต้องทำงาน รอฟ้าประทานมา แล้วก็ติดนิสัย ตั้งแต่เล็กจนโต ได้อะไรง่ายๆ ก็เลยหยิบขี่ไก่ไม่ฝ่อ จับจด ทำอะไรไม่เป็น ไม่รู้จักโต อยากได้อะไรก็ต้องได้ เป็นกรรมของประเทศจริงๆ

ส่วน…จ่ายครบจบแน่ นั้น ขอไม่ออกความเห็น เดี๋ยวจะก้าวก่ายข้ามระดับการศึกษา แต่ก็คงเป็นแบบได้อะไรมาง่ายๆ อีกเช่นกัน เมื่อคนได้อะไรมาง่ายๆ มาเป็นครู ก็คงอยากได้อะไรง่ายๆ อีกเช่นกัน ทำไงล่ะ นอกจากจ่ายครบจบแน่แล้ว ยังมี “จ่ายครบ ผ่านแน่” ด้วยครับขอรับ ขอบอก

จบนะ…ยาวเกินคนคงไม่อ่าน